15 ข้อเคล็ดลับทวิตเตอร์สำหรับธุรกิจ ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้
ทวิตเตอร์ (Twitter) โซเชียลเน็ตเวิร์คแพลตฟอร์มที่ใช้ง่ายและข่าวสารไปไวที่สุดแห่งหนึ่งในโลกออนไลน์ เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ทรงพลัง รวดเร็ว และมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นทุกปี จึงเหมาะจะทำการตลาดเป็นอย่างมาก
ตามสถิติโดยเว็บไซต์ Statista กล่าวไว้ว่า
- 40 % ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ในสหรัฐอมเริกา อยู่ในช่วงอายุ 18-29 ปี และ 27% อยู่ในช่วงอายุ 30-49 ปี ซึ่งไทยก็ไม่ต่างกัน
- ผู้ใช้ทวิตเตอร์มีประมาณ 261 ล้านคนทั่วโลก 79% เป็นผู้ใช้ที่ไม่ได้อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
- 46% ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ เข้าทวิตเตอร์ทุกวัน
- 80% ของผู้ใช้ ใช้ทวิตเตอร์ผ่านแอพมือถือ
1. กำหนดความสำเร็จและเป้าหมายที่ชัดเจน
การวางแผนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด กลยุทธ์ที่เฉียบ คือ ก้าวแรกของความสำเร็จของแบรนด์คุณ
อย่างเช่น ทีมของคุณอาจจะวางเป้าหมายไว้ดังนี้
- เพิ่มโอกาสในการขายและยอดขาย
- เพิ่มความจงรักภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty)
- สร้างความตระหนักถึงแบรนด์และสินค้า
- ลดค่าใช้จ่ายทางด้านการสนับสนุนลูกค้า
เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นสถิติอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้สามารถวัดความก้าวหน้าของเป้าหมายคุณได้ เป็นสิ่งที่จะพิสูจน์กลยุทธ์ทางการตลาดของคุณได้เป็นอย่างดี
2. รู้เขารู้เรา
ทุกคนเคยได้ยินคำว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” เป็นปรัชญาที่นำมาใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ในที่นี้เราเอามาใช้ศึกษาการตลาดออนไลน์ของคู่แข่ง เราต้องศึกษาถึงจุดแข็ง จุดอ่อนทางด้านการตลาดออนไลน์ และนำสิ่งนั้นไปปรับปรุงแบรนด์ตนเอง
3. เข้าใจกลุ่มลูกค้า
สินค้าของเราไม่สามารถดึงดูดคนทุกคนได้ เราจึงต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายและมัดใจคนกลุ่มนี้ให้ได้
4. ตรวจสอบองค์กรหรือแบรนด์ของคุณว่าควรใช้ทวิตเตอร์กี่บัญชี
ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กรหรือแผนกที่แบรนด์ของคุณมี คุณอาจจะมีบัญชีเดียวหรือหลายบัญชีก็ได้
5. รวมข้อมูลทางการตลาดให้เป็นหนึ่งเดียว
ปัญหาการมีข้อมูลไม่ตรงกันเกิดขึ้นมากกับองค์กรที่กำลังขยายหรือองค์กรใหญ่ๆ บริษัทควรรวบรวมข้อมูลและแจ้งพนักงานให้ตรงกัน เพื่อความสะดวกรวดเร็วของการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าด้วย
6. ทำให้บัญชีทวิตเตอร์ของแบรนด์มีจุดขายที่ไม่เหมือนใคร
เป็นเรื่องง่ายที่จะแชร์คอนเทนต์เดียวกันในช่องทางออนไลน์ต่างๆ การโพสซ้ำไม่มีอะไรน่าดึงดูดเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีจุดเด่นและฐานกลุ่มเป้าหมายเป็นของตัวเอง ดังนั้นการวางแผนการตลาดก็ต้องเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า
7. ใช้เครื่องมือที่เกี่ยวกับทวิตเตอร์ให้เป็นประโยชน์
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย โดยการศึกษาผู้คนที่ engage กับทวิตของแบรนด์คุณ, ทำไมพวกเขาถึงแชร์คอนเทนต์ของคุณ, พวกเขาแชร์ให้ใครดู
- ใช้เครื่องมือเสาะหา Influencer เพื่อสร้างคอนเนกชั่น
- วิเคราะห์คู่แข่งของคุณ โดยการหารายละเอียดต่างๆ จากทวิต, เมนชั่น, แฮชแท็ก, ผู้ที่ติดตามเป็นต้น
- ใช้เครื่องมือดูว่าตอนนี้หัวข้ออะไรติดเทรนด์
- ใช้เครื่องมือหาข้อมูล เพื่อทำรูปให้น่าสนใจ มีจุดเด่น และดึงดูด
- ใช้เครื่องมือจัดการคนที่คุณ follow (และ Unfollow) เพื่อทำให้เราสามารถหาข้อมูลอันมีค่าในทวิตเตอร์ได้ง่ายๆ และ unfollow ทวีตที่ไม่เคลื่อนไหวหรือสแปมออกไปซะ
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อดูสถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแอคเคาท์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นยอด Engagement, สถิติ Follower เป็นต้น
8. สร้างโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ให้ปัง
- เขียน Bio ให้น่าสนใจ
- เขียนโปรไฟล์ให้เต็ม เพื่อให้ลูกค้าหาแบรนด์ของคุณได้ง่าย โดยการสถานที่ตั้งหน้าร้านของคุณ เป็นต้น
- Verified หรือทำบัญชีให้เป็นทางการ จะทำให้แบรนด์และคอนเทนต์ของคุณน่าเชื่อถือ
- โชว์ทวิตเตอร์ทุกหนแห่ง เช่น นำไปใส่ไว้ในเว็บไซต์, ลายเซ็นในอีเมล, หรือแม้แต่รถบรรทุกขนส่งของบริษัทคุณ หรือทุกที่ที่สามารถทำได้
9. ฟังและเรียนรู้จากชาว Twitter
คุณต้องรู้ว่าชาวทวิตเตอร์คุยอะไรกันบ้าง ดูว่าคนเขาเมนชั่นแบรนด์คุณโดยตรงรึเปล่า , พวกเขาสนใจเรื่องอะไร, พวกเขาตอบสนองกับคอนเทนต์แบบไหน, กับใคร สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการดึงดูดความสนใจ
นอกจากที่กล่าวมา ก็มีเรื่องที่คุณต้องรับฟังคือ :
- ชื่อแบรนด์ของคุณ
- ชื่อผลิตภัณฑ์ของคุณ
- สโลแกนของแบรนด์
- คำฮิตติดเทรนด์
- ชื่อของ CEO และตัวแทนของแบรนด์
- ชื่อแคมเปญ และคีเวิร์ด
และที่สำคัญที่สุดคือต้องหา Influencer หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้องมาแนะนำสินค้า เนื่องจากกว่า 40% ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ซื้อสินค้าโดยตรงจากทวีต influencer เนื่องจากกว่า 49% ไว้ใจ influencer เวลาที่พวกเขาหาซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง
10. สร้างคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยม
- เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ลูกค้าจะกดเข้ามาอ่านและสนใจจริงๆ คุณต้องไม่หยุดศึกษาความสนใจ, ความต้องการ และความกลัวของผู้บริโภค
- สั้นๆ และได้ใจความครบ เนื่องจากทวิตเตอร์จะพิมพ์ได้แค่ 280 อักษรเท่านั้น เช็คให้ดีว่าลิงก์ของคุณยาวกินเนื้อที่ข้อความรึเปล่า
- ถ้าไม่สร้างคอนเทนต์เอง ก็คัดสรรค์คอนเทนต์คุณภาพมาแชร์
- ใช้แฮชแท็กให้เป็น
11. ใช้มัลติมีเดียเพื่อเพิ่ม engagement
- วิดีโอ จากการวิจัยพบว่า 79% ของผู้บริโภคจะชอบดูวิดิโอเพื่อศึกษาผลิตภัณฑ์มากกว่าอ่านข้อความ และ 84% จะอยากซื้อสินค้าหลังจากที่ดูวิดิโอจบ
- รูปภาพ ถึงแม้ข้อที่แล้วจะบอกว่าผู้คนสนใจวิดิโอมากกว่า แต่รูปภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน
- ใช้รูปภาพขยับ หรือ Gif น่ารักๆ หรือกวนๆ ประกอบโพสต์ของคุณ
12. โพสต์ให้ถูกเวลา
ทวีตมีอายุสั้น จากการวิจัยพบว่า ทวิตมีอายุแค่เกือบ 1 ชม. และสักพักก็จะโดนทวีตใหม่ๆ กลบหายไปใน 3 ชม. เพราะทวิตไม่ต้องผ่าน algorithm เหมือนเฟซบุ๊ก ดังนั้นคุณจะเห็นทวิตทุกสิ่งที่คุณกดติดตามแบบ real-time คุณจึงต้องทวิตให้เป็นเวลา
- ทวิตอย่างสม่ำเสมอ เราแนะนำให้ทวิตอย่างน้อยวันละครั้ง หรือไม่ก็ทดลองโพสเพื่อหาความถี่ที่เหมาะสมดู เพื่อดูว่าโพสถี่แค่ไหนถึงจะเหมาะสมและดีที่สุดสำหรับแบรนด์ของคุณ
- โพสให้ถูกเวลา มีการวิจัยออกมาว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทวิตคือเที่ยง 5 โมงเย็นและ 6 โมงเย็น
- เมื่อคุณรู้แล้วว่าควรจะโพสเวลาไหน ก็ตั้งเวลาโพสซะเลย ทั้งสะดวกและประหยัดเวลาของคุณ
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์หาสถิติเพื่อปรับใช้กับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณด้วยเครื่องมือของ Twitter Analytics
13. มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า
จำนวนผู้ติดตามเป็นเพียงแค่ตัวเลข ยอด Engagement คือของจริง
- ติดตามเครือข่ายของคุณเอาไว้ ทวีตของคนติดตามคุณอาจจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจ ความต้องการ ความชอบ และอื่นๆ ของพวกเขามากมาย คุณสามารถเก็บข้อมูลตรงนี้ไปปรับปรุง หรือพัฒนาการตลาดของคุณได้อย่างดี
- ตอบข้อความไว – จากการวิจัยพบว่า 42% ของลูกค้าต้องการให้ตอบกลับข้อความภายใน 1 ชม. ตอบพวกเขาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกับการขายทางโทรศัพท์
- Mention และ Tag Follower, Influencer, หรือแบรนด์อื่น เป็นการเรียก traffic มายัง twitter ของคุณได้ดี
- นานๆ ที ขอความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ จาก follower ให้พวกเขารีทวีต,เมนชั่น,ไลก์ให้บ้าง
- ตั้ง Poll เป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดเพื่อขอ feedback หรือความคิดเห็นจากลูกค้าและผู้ที่สนใจแบรนด์ของคุณ
14. รวบรวมสถิติและวิเคราะห์
เพื่อวัดความสำเร็จของแผนการตลาดของคุณและปรับปรุงแผนต่อไป
15. ยกระดับกลยุทธ์ทางการตลาด
เมื่อคุณลองกลยุทธ์พื้นฐานจากข้อที่ผ่านมาแล้วยังไม่พอใจ ลองใช้วิธีที่ยากขึ้น
- จ่ายเงินลงโฆษณาในทวิตเตอร์: คุณสามารถ Promote ทวีตเดียวหรือแม้แต่แอคเคาท์ของคุณ แล้วแต่ว่าคุณมีกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างไร
- Live Video: แชร์ Live Streaming วิดิโอจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ตัวอย่างเช่น Airbnb ทดลองแชร์ช่อง 360° Livestreaming ที่ไลฟ์สดสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น
- ทำให้บัญชี Twitter ของคุณเป็น Customer Service ซะเลย
เนื่องจากทวิตเตอร์มาไกลจากปี 2006 มาก จากแพลตฟอร์มธรรมดาที่ทวิตได้แค่ 140 ตัวอักษร จนถึงตอนนี้ทวิตเตอร์ออกแบบเครื่องมือมามากมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ในระยะเวลา 12 ปี จากแค่แพลตฟอร์มธรรมดาที่ถามผู้ใช้ว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่? กลายเป็นสถานที่อันทรงพลังที่สร้างสังคมและความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นเลยทีเดียว