ยุทธศาสตร์ Local SEO ที่ต้องอัปเดตลงไปในธุรกิจตั้งแต่ตอนนี้!
การค้นหาเฉพาะที่ (Local Search) เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจขนาดย่อม 4 ใน 5 ของผู้บริโภค ใช้ Search Engine เพื่อค้นหาข้อมูลของสิ่งที่อยู่ในบริเวณ (Local) ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้ตั้งค่าให้แสดงผลใน Local Search คุณอาจจะเสียลูกค้าไปกว่า 80% พูดง่ายๆ การทำ Local SEO มีผลต่อธุรกิจมากเลยทีเดียว
2 สิ่งที่ต้องทำเพื่อติดจรวดให้กับ Local SEO
1.) ตั้งค่าใน Google Business
กลายมาเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการทำ Local Search ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่ Google รองรับการแชร์คอนเทนต์ต่างๆ, ยืนยันว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนจริง รวมทั้งเชื่อมกับ Google Map ออปชั่นที่กล่าวมาช่วยรองรับด้านการประชาสัมพันธ์ของธุรกิจได้
การตั้งค่าที่สำคัญ
– อัปเดตเว็บไซต์
ตอนนี้เราพูดถึงการตั้งค่าให้หน้าเว็บของธุรกิจคุณโผล่ขึ้นมาใน Google
นี่คือ 5 ข้อที่คุณควรอัปเดต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO
1. ปรับปรุงโครงสร้าง Link ภายใน
แม้ว่าลิงก์ภายนอกที่เชื่อมมายังเว็บไซต์ของคุณนั้นจะดีแล้ว แต่การปรับโครงสร้างการเชื่อมโยงมายังเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO ได้
การเชื่อมโยงภายในสำคัญอย่างไร?
- รองรับระบบนำทางภายในเว็บไซต์
- สนับสนุนโครงสร้างข้อมูลและลำดับชั้นภายในเว็บไซต์
- กระจายหน้าที่และการจัดอันดับระหว่างหน้าเว็บ
ปรับปรุงอย่างไร?
- สร้างคอนเทนต์ขึ้นมาเยอะๆ ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ ลิงก์ภายในของเว็บคุณที่จะดึงดูดลูกค้าจาก Search Engine เข้ามาในเว็บไซต์เยอะเท่านั้น แต่คอนเทนต์ต้องมีคุณภาพตาม
- ใช้ Alt Attribute (หรือการใส่ข้อความใน Image Tag) มีไว้เพื่อใส่ข้อความอธิบายรูปภาพ ช่วยเรื่องการลิงก์เข้ามายังเว็บของคุณได้เช่นกัน
- ลิงก์ลงลึก ยิ่งลงลึกเท่าไหร่ยิ่งดี แต่บางลิงก์ก็ไม่ควรใส่เยอะ เช่น ลิงก์ไปโฮมเพจ หรือ เบอร์ติดต่อ
ควรจะใส่ลิงก์คอนเทนท์และเนื้อหาที่เป็นยุทธศาสตร์ทางการตลาดของเว็บไซต์จะดีกว่า
- ใส่ลิงก์ที่ชวนให้อ่าน ชวนอ่านไม่ได้หมายถึง Click-Bait แต่เป็นหัวข้อที่ดึงดูดให้คนอ่านอยากกดเข้าไปดูต่อ เนื้อหาสาระเน้นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อต่อยอดให้คนอ่านเข้า Search Engine ไปค้นหาข้อมูลเพิ่ม จะยิ่ง Win-Win สำหรับธุรกิจและคนอ่าน
- ลิงก์ต้องมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
- ไม่ควรใส่ Pop-Up ในเว็บเยอะ จะเป็นการไล่ลูกค้ามากกว่าเชื้อเชิญ
2. ตั้งค่า URL, Tags, หัวข้อ,คำอธิบายรูป และคอนเทนต์
เมื่อพูดถึงคอนเทนต์ ทุกครั้งที่คุณเขียนคอนเทนต์ใดๆ ในบล็อกก็ตาม จะมีช่อง SERPs (ผลการแสดงอันดับในการค้นหา) เช่น หัวข้อ, คำที่เกี่ยวข้อง,คำอธิบาย ให้คุณใส่กลุ่มคำที่ช่วยในการที่เว็บของเราแสดงในหน้าเพจของ Google
3. ใส่ Location ใน Website ของคุณ
ใส่สถานที่ตั้งของธุรกิจคุณลงในเว็บไซต์ บอกถึงเวลาเปิด-ปิด , สาขา, ที่จอดรถ-การเดินทาง หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลซ้ำๆ โยงไปโยงมาของหลายเว็บมาลงในเว็บ เพื่อไม่ทำให้ลูกค้าสับสน
4. ทำคอนเทนต์ประจำท้องถิ่น
เนื่องจาก Google ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ คนสร้างคอนเทนต์สามารถนำประโยชน์ตรงนี้มาเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาด
คอนเทนต์ประจำท้องถิ่นอาจจะหมายถึงการเขียนคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับร้านค้าหรือสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ที่ตั้งธุรกิจของคุณ หรืออาจจะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา แล้วแต่ว่าคุณจะเชื่อมโยงได้แค่ไหน
5. ต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับมือถือ
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามือถือเป็นปัจจัย 5 ในการใช้ชีวิตของคนยุคนี้ ไม่ว่าจะค้นหาข้อมูลในด้านใดก็ตามหรือรีวิวก่อนซื้อสินค้าในมือถือจึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก คุณต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรต่อมือถือ หน้าเว็บของคุณต้องได้ขนาดต่อจอมือถือ
2.) ไดเรกทอรี่
คุณทราบการปรับปรุงภายในเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO ไปแล้ว หัวข้อนี้เราจะมาแนะนำการใส่ Directories, NAP ( Name, Address, Phone) และ Inbound Link เพื่อให้ธุรกิจของคุณเข้าใกล้การประสบความสำเร็จในการทำ Local SEO ไปอีกหนึ่งก้าว
- ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ
หรือ NAP จะลูกค้าหาคุณใน Search Engine ได้ง่าย คุณไม่ควรใส่ NAP ลงในรูปภาพ เพราะระบบการค้นหาไม่สามารถหาคำในรูปได้ ควรใส่เป็นลิงก์, Alt Tag, หรือ HTML Text ในเว็บของคุณ
- ใส่ Online Directories และ การอ้างอิง
คุณอาจจะใส่ Map Data ของเจ้าอื่นที่ไม่ใช่ Google เช่น Apple, Yelp, Bing, Trip Advisor เป็นต้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความถูกต้องของข้อมูล: ต้องให้มั่นใจว่าการอ้างอิงของคุณถูกต้อง ควรเช็คการสะกด, คำย่อ, เบอร์โทรศัพท์ เพราะ Google ไม่รู้ว่าข้อมูลไหนถูกต้องกันแน่ เป็นหน้าที่ของคุณเองที่ต้องตรวจสอบ เบอร์โทรศัพท์ที่ใส่ผิดอาจจะเป็นปัญหาได้
- ใส่ Inbound Link เพื่อยืนยันตัวตนของธุรกิจคุณ
Inbound Link เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มการทำ Local SEO ได้อย่างมาก ลิงก์ทุกอันสามารถบอก Google ได้ว่า บริษัทของคุณนั้นมีตัวตนจริง ตัวอย่าง ใส่ลิงก์ของพาร์ทเนอร์หรือสปอนเซอร์ , รูปของอีเวนท์ที่คุณจัดกับ Influencer หรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่คุณเคยจัด
- แชร์ Google My Bussiness ลง Social Media
อย่างที่กล่าวมาก่อนหน้าว่าเดี๋ยวนี้ Google ทำ features ที่สะดวกต่อการแชร์มากขึ้น เราสามารถสร้าง Google My Business งามๆ แล้วแชร์ให้ชาวเน็ตรับรู้
การทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณขึ้นสู่หน้าแรกของการค้นหาไม่ใช่เรื่องยาก และ อย่าละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น การสะกดคำ หรือการปักหมุดตำแหน่งที่ถูกต้องของบริษัทคุณ เป็นทุกสิ่งที่ลูกค้าเห็นจะเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทคุณ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกว่าคุณมีความตั้งใจ และจริงใจต่อลูกแค่ไหน