Clinic Marketing (#15) (#18)

https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

14 เทรนด์ การตลาดออนไลน์ ปี 2022-2024 ที่ต้องจับตา และต้องดู

digital-marketing

อนาคตของการ รับทำการตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing จะเป็นอย่างไร? งานอะไรในสายอาชีพนี้ที่ตลาดต้องการ? และอนาคตของโซเชียลมีเดียจะเจอกับหายนะหรือไม่?  เว็บไซต์ต่างประเทศได้สรุปทิศทางหรือเทรนด์สำหรับปี 2022 เอาไว้แล้ว เพื่อให้เหล่านักการตลาดเตรียมรับมือกันในปีหน้า

 

1. Content Marketing จะเปลี่ยนเป็น “Content Selling”

นักการตลาด จำนวนมากได้ตระหนักถึงความสำคัญของการทำคอนเทนต์ด้านการตลาด ซึ่งจากรายงานของสถาบัน Content Marketing Institute พบว่า 93% ของนักกการตลาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการทำการตลาดแบบ Business to Business (B2B) ระบุว่าที่ผ่านมาองค์กรของพวกเขามุ่งมั่นกับการ Content Marketing แต่ปัจจุบันบริษัทเหล่านี้กำลังปรับเปลี่ยนแนวทางในการทำคอนเทนต์ไป Content Selling เพื่อสร้างหลักประกันทางตลาด

นั่นหมายความว่า คอนเทนต์ต่าง ๆ จะต้องเอื้อต่อกระบวนการขาย และทีมการตลาดจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้สอดคล้องกับเส้นทางของกลุ่มเป้าหมายก่อนจะมาเป็นลูกค้าของเรา ซึ่งการวัดผลกระทบจากการทำการตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญที่ชี้วัดความสำเร็จจากการกำหนด KPI ที่เหมาะสมกับ Content Marketing

 

2. ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การตลาดแบบ All-in-One

แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาดดิจิทัล หนึ่งในนั้น คือการเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์แบบครบวงจร ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว เพื่อใช้เครื่องมือทั้งหมดของ Liana Technologies จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำงานของ นักการตลาดและช่วยประหยัดเวลา

 

3. ยิงโฆษณาหากลุ่มเป้าหมายแม่นยำยิ่งขึ้น

ปกติแล้วผู้คนมักจะไม่สนใจโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ซึ่งจากการวิจัยโดย Digital Connections พบว่าผู้คน 49% จะไม่สนใจแบรนด์ หากรู้สึกว่าโฆษณานั้น ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง  ขณะที่ 36% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามกลับมา มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ส่งข้อความหรือโฆษณาที่เหมาะสมกับพวกเขา นั่นหมายความว่า ทิศทางของการโฆษณาออนไลน์ในอนาคตจะตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำยิ่งขึ้น

 

4. ใช้เสียงค้นหาสินค้าที่ต้องการ (Voice Search)

การใช้เสียงค้นหาสินค้าหรือสิ่งที่ต้องการ (Voice Search) ดูเหมือนจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียว  ยอดขายจาก Voice Commerce  หรือการสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียงน่าจะทำเงินได้สูงถึง  4 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียวในปี 2022 ดังนั้น จึงควรมี Voice Search ไว้รองรับกลุ่มลูกค้าเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น

 

5. งานใหม่ด้านการตลาด

เมื่อมีการเติบโตด้าน Big Data จึงส่งผลให้งานการตลาดที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์และตีความข้อมูลเป็นที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยบอสตันมองว่า งานด้านการตลาดอย่างตำแหน่ง นักวิเคราะห์วิจัยการตลาด (Market Research Analyst) จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นถึง 41.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่งานที่เกี่ยวกับ Growth Hacking ในการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่หลากหลาย เพื่อให้กิจการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้น

 

6. การตลาดเฉพาะบุคคล

90% ของแบรนด์ต่าง ๆ จะใช้การตลาดเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่นำเสนอสินค้า บริการ หรือคอนเทนต์ที่ตรงกับลูกค้าเป็นรายบุคคล ทำให้คาดว่าในอนาคตบริษัทต่าง ๆ จะปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของตนเองให้เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะบุคคล เหมือนอย่างเว็บไซต์ Amazon  ที่หน้าแรกของเว็บไซต์จะวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน ก่อนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความสนใจหรือความสนใจของคนนั้น ๆ

 

7. การขายและการตลาดจะสอดคล้องกัน

ความนิยมที่มีเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยี อาทิ แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติ จะทำให้งานด้านการขายและการตลาดดำเนินไปอย่างสอดคล้องกลมกลืนกันยิ่งขึ้น  ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า 1 ใน 3 ระบุว่าระบบการตลาดอัตโนมัติช่วยให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างงานด้านการขายและการตลาด

 

8. การลงทุนด้านการตลาดออนไลน์จะเติบโตขึ้น

ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ มีการใช้จ่ายด้านการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on investment -ROI) มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการลงทุนในด้านนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย โดย The Drum คาดการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์การตลาดออนไลน์ทั่วโลก จะเติบโตจาก 37.48 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2017 เป็น 74.96 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022

ส่วน CMO วิเคราะห์ว่าตลาดจะเติบโตเป็นพิเศษจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในการโฆษณาออนไลน์  โดยคาดว่าภายในปี 2022 งบประมาณ 87% ของการตลาด จะถูกนำมาทุ่มกับการทำการคลาดออนไลน์

 

9. พฤติกรรมลูกค้าใหม่

เทรนด์การตลาดออนไลน์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้  Generation Z (Gen-Z) คือผู้บริโภคกลุ่มใหญ่คิดเป็น 40% ของผู้บริโภคทั้งหมด ดังนั้น การตลาดในอนาคตจึงต้องพุ่งเป้าไปที่การตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าใหม่กลุ่มดังกล่าว ด้วยวิธีการเหล่านี่

  • ร่วมงานกับเหล่า Influencer ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่ม Gen-Z โดยพบว่ามีถึง 86% ของผู้หญิงที่ซื้อสินค้าตามคำแนะนำของ Influencer ในโซเชียลมีเดีย
  • มุ่งเน้นแสนอคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอ ซึ่งสถิติในปี 20108 พบว่า 95%ของคนที่ได้ดูวิดีโอจะสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
  • ต้องมีความโปร่งใส เพราะ Gen-Z ให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใส หากเชื่อมั่นแล้วจะตัดสินใจซื้อสินค้าตามได้ง่ายขึ้น

 

10. ความโปร่งใส

94% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาจะยังคงภักดีต่อแบรนด์ที่มีความโปร่งใส ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้น หาก

บริษัทใดล้มเหลวในการมอบความไว้วางใจในเรื่องความโปร่งใส และความถูกต้อง ก็จะพลาดโอกาสในการขายไป ขณะที่

สหภาพยุโรปก็ออกกฎหมายที่เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  (GDPR) และมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2018 ด้วย เพื่อแสดงให้เเห็นถึงความสำคัญของการจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างโปร่งใส

 

11. มีแอปพลิเคชันรองรับ

จากข้อมูลของ AdAge พบว่าการใช้จ่ายผ่านมือถือของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 65 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2020 ซึ่งการการพัฒนาเทคโนโลยี 5G จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลมือถือ และถ่ายทอดข้อความที่ต้องส่งไปยังผู้บริโภคผ่านแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านแอปฯ ในมือถือ

 

12. พฤติกรรมใหม่ของโซเชียลมีเดีย

อาจเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อหากจะบอกว่าทุกวันนี้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะใช้ปิดการใช้งานโซเชียลมีเดียของพวกเขามากขึ้น  โดยข้อมูลจาก GlobalWebIndex พบว่า 32% ของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจปิดการใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดียของพวกเขาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น นักการตลาดจึงต้องมีความขัดเจนในการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น เช่นการนำเทคโนโลยี VR และ AR มาใช้ รวมถึงใช้ข่องทางอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ การส่งข้อความการตลาดผ่านอีเมล และการประชาสัมพันธ์

 

13. การตลาดแบบทันท่วงที

การตลาดแบบทันท่วงที (Just-in-time marketing) มุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาทางการตลาดที่จำเป็น และต้องปรับให้ เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคได้ทันเวลาที่พวกเขาพร้อมจะซื้อ ด้วยการใช้แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติ ที่สามารถส่งข้อความไปยังผู้บริโภคได้ทันท่วงที ซึ่งรายงานจาก Accenture Interactive พบว่า 38% ของบริษัทที่ทำการตลาดแบบ Just-in-time marketing มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 25%

 

14. การเพิ่มขึ้นของ AI

เทคโนโลยี AI จะถูกนำมาใช้กับการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น ซึ่ง Gartner วิเคราะห์ไว้ด้วยว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ AI จะเข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ใหม่ ๆ เกือบทุกตัวในอนาคต

 

iPlan Digital
iPlan Digital
Articles: 70