แนะนำวิธีตั้งราคาประมูล (Bidding) LINE Ads ให้ตอบโจทย์ธุรกิจร้านค้า
ทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็หันมาขายของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มากขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือการขายของผ่าน LINE ซึ่งมีระบบร้านค้าช่วยรองรับและอำนวยความสะดวกให้กับแบรนด์และธุรกิจต่าง ๆ โดยเครื่องมือการตลาดของไลน์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ LINE Ads ซึ่งเป็นเครื่องมือโฆษณาที่ทรงพลัง สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ เราลองมาทำความรู้จักกับ LINE Ads และการประมูลโฆษณาให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถประมูล Ads ได้เหมาะสมกับร้านค้าของเรามากที่สุด
LINE Ads คืออะไร
LINE Ads คือ แพลตฟอร์มการลงโฆษณาบนไลน์โดยใช้ระบบประมูล สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานแอปฯ ไลน์ได้มากกว่า 53 ล้านคน และยังมียอดการเข้าถึงมากกว่า 2,500 ล้านครั้งต่อเดือน โดยการยิง LINE Ads นั้นก็คล้ายคลึงกับการยิงโฆษณาผ่านเครื่องมืออื่น ๆ คือสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถปรับการตั้งค่างบประมาณและการแสดงผลได้โดยไม่มีขั้นต่ำ
หลักการทำงานของ LINE Ads ก็คือ เมื่อเราสร้างโฆษณาเรียบร้อยแล้ว โฆษณาชิ้นนั้นจะเข้าสู่ระบบประมูล เพื่อแสดงผลยังตำแหน่งต่าง ๆ 6 ตำแหน่งโดยอัตโนมัติ ได้แก่ ตำแหน่ง LINE Home Tab, LINE Chat List, LINE Voom, LINE Today, LINE Wallet และ LINE OpenChat ซึ่งเป็นตำแหน่งโฆษณาที่วิเคราะห์มาแล้วว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและมียอดการเข้าถึงเป็นจำนวนมาก
การประมูล LINE Ads ให้ได้ผล ชนะคู่แข่ง ต้องมีแนวทาง
การประมูล (Bidding) LINE Ads ผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ ทำให้ปัจจุบันมีผู้ต้องการลงโฆษณากับไลน์เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญโฆษณายังเลือกจุดประสงค์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่ม Conversion, เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์, เพิ่มการติดตั้งแอปฯ, เพิ่มยอดวิววิดีโอ หรือแม้แต่การเพิ่มเพื่อนไลน์ของแบรนด์และธุรกิจ เป็นต้น
ส่วนการประมูลจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ โดยต้องเลือกให้เหมาะกับรูปแบบธุรกิจของเราด้วย ดังนี้
1. การประมูลแบบไม่เกี่ยงราคา (No Limit)
เป็นระบบสำหรับแบรนด์ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยไม่เกี่ยงราคาในการประมูล แต่ข้อควรระวังคืองบประมาณอาจบานปลายได้
2. กำหนดราคาที่แน่นอน (Set Target Event Cost)
เป็นระบบสำหรับแบรนด์ที่ตั้งเป้าผลลัพธ์ตามราคาหรืองบประมาณที่ตั้งเอาไว้ เหมาะสำหรับการยิงแอดที่มีการตั้งค่า KPI เพื่อวัดผลเอาไว้ชัดเจน
3. กำหนดราคาระดับพอสู้ได้ (Set an Event Cost Cap)
เป็นระบบสำหรับแบรนด์ที่ต้องการมุ่งหาผลลัพธ์ตามราคาที่ตั้งไว้ เหมาะสำหรับการยิงแอดที่มีการตั้งค่า KPI เอาไว้ชัดเจน
4. กำหนดราคาต่ำสุด (Set a Bid Amount Cap)
เป็นระบบสำหรับแบรนด์ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ สามารถตั้งราคาเองได้ โดยระบบจะมุ่งหาผลลัพธ์ตามงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ ถือเป็นรูปแบบการประมูลที่ช่วยคุมงบได้ดี แต่โฆษณาอาจไม่ถูกแสดงหรือแสดงผลน้อยมาก
แบรนด์หรือธุรกิจที่กำลังคิดว่าการประมูล LINE Ads แบบไหนเหมาะกับเรา ลองนำรูปแบบการประมูลทั้ง 4 แบบไม่เป็นตัวช่วยตัดสินใจกันได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง: เทคนิคมัดใจลูกค้าใน LINE OA ด้วยเมนูด่านแรก Rich Menu