Retargeting ต่างจาก Remarketing อย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน

เครื่องมือและกลยุทธ์ทางการตลาดมีอยู่มากมายหลายอย่าง ซึ่งร้านค้าออนไลน์ก็ต้องศึกษาและเลือกนำมาใช้ให้เหมาะสม เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอยู่เสมอ กลยุทธ์ Retargeting และ Remarketing ต่างเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมที่ถูกหยิบยกมาใช้งานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ทั้งสองกลยุทธ์นี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน เรามีข้อมูลมาฝากกัน

Retargeting คืออะไร

การทำกลยุทธ์ Retargeting คือ วิธีการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าและบริการของเราให้กลายเป็นลูกค้าจริง มีการสั่งซื้อสินค้าและบริการจากเราจริง ๆ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากช่องทางต่าง ๆ เพื่อคัดเลือกลูกค้าที่ “กำลังสนใจ” สินค้าและบริการ เพื่อสร้างแคมเปญหรือโฆษณาส่งไปทางโซเชียลมีเดียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อสินค้านั้น ๆ ให้ได้ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง

Remarketing คืออะไร

การทำกลยุทธ์ Remarketing คือ การทำการตลาดซ้ำไปยังคนกลุ่มเดิมที่เคยพบเห็นร้านค้า สินค้า หรือแบรนด์ของเรา อาจมีการคลิกชมโฆษณาหรือเนื้อหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ของธุรกิจเราผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ซึ่งการติดตามข้อมูลเหล่านี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการติด Tag และรวบรวมข้อมูลผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และเว็บไซต์ จนได้ข้อมูลเพื่อนำมาทำการ Remarketing

Remarketing แตกต่างจาก Retargeting อย่างไร

Remarketing คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำได้ด้วยการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานจากช่องทางต่าง ๆ ก่อนนำไปยิงแอดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ส่วนการทำ Retargeting จะเป็นการติดตามกลุ่มเป้าหมายก่อนว่ามีความสนใจในสินค้าและบริการแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ เพื่อยิงแอดกระตุ้นให้เกิด Call to Action จนสร้างรายได้สำเร็จ

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการ Retargeting หรือ Remarketing ต่างก็เป็นเครื่องมือการตลาดที่สำคัญและควรนำมาใช้ควบคู่กัน สำหรับกลุ่มคนที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการสั่งซื้อจริง หลังจากเก็บข้อมูลได้ให้ออกแบบโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้สั่งซื้อ ส่วนกลุ่มคนที่เคยเห็นโฆษณาหรือมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมลหรือเว็บไซต์ เราสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้และส่งโฆษณาไปซ้ำในช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อให้เกิด Conversion ตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเพื่อน การติดตามโซเชียลมีเดีย หรือการคลิกเข้าชมหน้าเว็บไซต์ธุรกิจ เป็นต้น

รู้กันแล้วว่า Retargeting และ Remarketing คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งจากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าเครื่องมือการตลาดทั้งสองรูปแบบนี้ต่างมีความสำคัญและควรใช้งานควบคู่กันไป แต่สิ่งสำคัญก็คือการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงเลือกเนื้อหาหรือออกแบบแคมเปญโฆษณา โดยกำหนดวัตถุประสงค์ให้เหมาะสม ก็จะช่วยให้เราสามารถทำการ Retargeting และ Remarketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง: Retargeting คืออะไร ยิงแอดอย่างไร ลูกค้ากดซื้อสินค้าใน LINE OA