Clinic Marketing (#15) (#18)

https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

Discord คืออะไร? ต่างจากแพลตฟอร์มแชตอื่น ๆ อย่างไร?

หากใครเป็นสายเกมเมอร์ที่ชอบเล่นวิดีโอเกมบนเครื่อง PC หรือคอมพิวเตอร์ น่าจะคุ้นเคยกับ Discord กันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดาคนเล่นเกม

Discord.com แพลตฟอร์มแชตที่มีผู้ใช้งานกว่า 250 ล้านคนทั่วโลก
Discord.com แพลตฟอร์มแชตที่มีผู้ใช้งานกว่า 250 ล้านคนทั่วโลก

Discord คืออะไร?

Discord เป็นแพลตฟอร์มแชตที่ให้ใช้งานได้ฟรี โดยเป็นการผสมผสานระหว่าง 2 แอปฯ ดังอย่าง Slack ที่มีจุดเด่นด้านฟีเจอร์แชตที่สามารถแชตส่วนตัวและแชตแบบกลุ่มได้ กับ Skype ที่มีจุดเด่นด้านการแชตในรูปแบบ Voice Chat  และ Video Chat จึงเป็นอีกหนึ่งแอปฯ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

ด้วยความที่ตอบโจทย์การเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อน ๆ ได้อย่างไหลลื่น ทั้งการแชต การพูดคุยด้วยเสียง วิดีโอคอล หรือจะแชร์หน้าจอคอมพ์ให้เพื่อนดู ทำให้ปัจจุบัน Discord มีผู้ใช้งานมากถึง 250 ล้านคนทั่วโลก และมีคนที่ใช้งานเป็นประจำทุกวันมากถึง 14 ล้านคน

นอกจากนี้ Discord สามารถสร้างห้องแชตไว้พูดคุยกันในกลุ่มเฉพาะ หรือเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน รวมถึงค้นหาหรือแอดเพื่อนเข้ามากลุ่มแชตได้อย่างง่ายดาย จึงไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะคอเกมเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นสื่อกลางในทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย

Discord ต่างจากแพลตฟอร์มแชตอื่น ๆ อย่างไร?

แม้ว่ามีโปรแกรมแชตออนไลน์ที่ให้บริการฟรีอยู่มากมาย แต่ Discord โดดเด่นตรงที่มีตัวเลือกในการแชตที่หลากหลาย อีกทั้งยังรวมฟีเจอร์เด่น ๆ จากแพลตฟอร์มแชตสุดฮิตอย่าง Slack และ Skype มาไว้ทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้า Interface ที่ใช้งานง่าย หรือการใช้ Voice Chat คุยกันโดยไม่ทำให้โปรแกรมอื่นทำงานช้าลง ซึ่งความโดดเด่นนี้เองทำให้คนส่วนใหญ่เลือกใช้ Discord เพื่อพูดคุยและสนทนากับคนที่มีความสนใจในเรื่องที่คล้ายคลึงกัน

ที่สำคัญ Discord ยังสามารถสร้างกลุ่มหรือสร้างเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่สามารถให้ผู้ใช้งานคนอื่นเข้ามาร่วมในกลุ่มได้ ซึ่งมีทั้งแบบเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นกลุ่มส่วนตัวหรือกลุ่มสาธารณะ และยังมี Forum หรือพื้นที่สำหรับสนทนาในหัวข้อต่าง ๆ แบบออนไลน์ด้วย จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มแชตยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก

จุดเด่นของ Discord

สร้างเซิร์ฟเวอร์ หรือค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่สนใจได้

Discord สร้างเซิร์ฟเวอร์หรือห้องแชสามารถทำได้ง่าย ๆ
Discord สร้างเซิร์ฟเวอร์หรือห้องแชสามารถทำได้ง่าย ๆ

การสร้างเซิร์ฟเวอร์หรือห้องแชตสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดเครื่องหมาย + (Add a Server) ตรงแถบบาร์ด้านซ้าย จะมีช่องป๊อปอัพเด้งขึ้นมา จากนั้นให้คลิก Create My Own เพื่อสร้างเซิร์ฟเวอร์ใหม่ โดยสามารถตั้งชื่อเซิร์ฟเวอร์ได้ตามต้องการ รวมถึงสามารถเชิญผู้ใช้งานคนอื่นให้เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ของเราได้ด้วยการคลิก Invite Your Friends เมื่อเพื่อนรับคำเชิญโดยกดลิงก์ที่ส่งไปให้ ก็จะสามารถส่งข้อความหรือคุยแบบ Voice Chat กับเราได้  โดยสามารถกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวได้ว่าจะเปิดเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว, สาธารณะ หรืออนุญาตเฉพาะเพื่อนที่ได้รับเชิญเท่านั้น

โดยส่วนใหญ่แล้ว Discord จะมีเซิร์ฟเวอร์ที่เปิดเป็นสาธารณะสำหรับผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เพียงแค่ค้นหาคำที่ต้องการก็สามารถเข้าไปร่วม Join ได้ ซึ่ง Discord มี Verified Server (เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการยืนยันตัวตน ซึ่งก่อตั้งโดยสตูดิโอเกมดัง ๆ  หรือหน่วยงานองค์กรที่มีชื่อเสียง) จึงกลายเป็นชุมชนอย่างเป็นทางการที่แฟน ๆ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้

Voice Chat ใช้งานง่าย

Voice Chat ใน Discord สามารถใช้งานได้ง่าย
Voice Chat สามารถใช้งานได้ง่าย

จุดเด่นสำคัญของ Discord คือ Voice Chat สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงเข้าไปคลิกที่ Voice Channel ในเซิร์ฟเวอร์ โปรแกรมก็จะเปิดไมโครโฟนให้อัตโนมัติ โดยสามารถโทรหาเพื่อนแบบส่วนตัว หรือจะคุยกันแบบเป็นกลุ่มก็ทำได้เช่นกัน

เมื่อเข้ามาในหน้า Voice Chat จะมีหน้าต่างโชว์ให้เห็นด้านล่าง เพื่อเลือกปิดเสียงไมโครโฟนของตนเองได้ หรือหากคลิกที่ไอคอนหูฟัง ก็จะเป็นการใช้โหมด Deafen ซึ่งจะปิดทั้งไมค์ของตนเองและเสียงจากลำโพง

หากต้องการตั้งค่าต่าง ๆ ก็สามารถกดที่รูปฟันเฟือง เพื่อตั้งค่าได้ตามต้องการ และหากต้องการวางหูก็เพียงกดที่ไอคอนรูปโทรศัพท์ที่มีลูกศรชี้ลงก็จะเป็นการ Disconnect หรือตัดการเชื่อมต่อนั่นเอง

ควบคุมได้ว่าต้องการเห็นหรือได้ยินเสียงใคร

แอดมินเซิร์ฟเวอร์สามารถควบคุมได้ว่าต้องการเห็นหรือได้ยินเสียงใคร
แอดมินเซิร์ฟเวอร์สามารถควบคุมได้ว่าต้องการเห็นหรือได้ยินเสียงใคร

แม้ว่าจะแชร์เซิร์ฟเวอร์ให้ผู้ใช้งานคนอื่นเข้ามาในห้องของเราได้ แต่ Discord มีฟีเจอร์ที่สามารถให้เจ้าของหรือผู้ดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ เป็นผู้กำหนดได้ว่าจะคุยกับใครหรือจะบล็อคใคร รวมถึงสามารถส่งข้อความส่วนตัวหากันได้ และหากผู้ใช้งานรายใดส่งเสียงดังจนเป็นการรบกวนผู้อื่นก็สามารถปรับลดระดับเสียง หรือปิดเสียงเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงผู้ใช้งานคนนั้นได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอำนาจของแอดมินบนเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถทำได้เพื่อความสงบเรียบร้อยของเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ

ฟีเจอร์ Go Live สตรีมเกม / แชร์แอปฯ ให้เพื่อนดูได้

ฟีเจอร์ Go Live  ช่วยให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์สามารถสตรีมเกมแบบสด ๆ
ฟีเจอร์ Go Live สตรีมเกมแบบสด ๆ ให้ผู้ใช้งานคนอื่นดู

Discord มีฟีเจอร์ที่ชื่อ Go Live ซึ่งช่วยให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์สามารถสตรีมเกมแบบสด ๆ ให้ผู้ใช้งานคนอื่นดูได้ด้วยเพียงคลิกที่ปุ่ม Go Live ที่อยู่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอ เมื่อมีการเชื่อมต่อผ่าน Voice Chat

โดยหลังจากคลิกปุ่มดังกล่าว จะสามารถเลือกเกมที่จะสตรีมให้เพื่อน ๆ หรือผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ดูได้ หรือหากไม่ต้องการสตรีมเกม ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ Go Live เพื่อแชร์หน้าจอของคุณ หรือแอปฯ อื่น ๆ เพื่อดูกับเพื่อได้เช่นกัน เช่น เปิดวิดีโอใน YouTube ดูพร้อมกันกับคนอื่น ๆ เป็นต้น

Discord Nitro เวอร์ชันสมัครสมาชิกรายเดือน / รายปี

แม้ว่าเป็นแอปฯ ที่สามารถใช้งานได้ฟรี แต่ก็มีเวอร์ชันสมัครเป็นสมาชิกแบบรายเดือนและรายปีในชื่อ Discord Nitro ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะได้สิทธิพิเศษในการใช้งานต่าง ๆ เพิ่มเติมจากเวอร์ชันฟรี โดยจะคิดค่าบริการเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐ (360 บาท) และปีละ 100 เหรียญสหรัฐ (3,600 บาท)

Discord Nitro สำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกรายเดือน / รายปี
Discord Nitro สำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกรายเดือน / รายปี

สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการเสียค่าสมาชิกมีมากมาย ได้แก่

  • สามารถใช้อิโมติคอนแบบเคลื่อนไหวได้
  • อัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ขึ้นได้
  • สามารถสตรีมในระบบ 4K ผ่านฟีเจอร์ Go Live ได้
  • เซิร์ฟเวอร์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถปลดล็อกฟังก์ชันต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานได้มากขึ้น
  • คุณภาพเสียงในการพูดคุยแบบ Voice Chat ดีขึ้น
  • สามารถปรับแต่งเซิร์ฟเวอร์ให้มีความน่าสนใจขึ้น ด้วย Animated Server Icons และกราฟิกต่าง ๆ
  • สามารถสร้างชื่อ Vanity URL (กำหนดชื่อ URL ที่ต้องการ) เพื่อแชร์ให้คนอื่น ๆ ได้

ช่องทางดาวน์โหลด

หากต้องการดาวน์โหลด Discord มาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, แล็ปท็อป หรือใช้งานผ่านเบราเซอร์ สามารถดาวน์โหลดได้เลย ที่นี่

หรือหากต้องการดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อใช้งานบนมือถือ ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store หรือ iTunes App Store ได้เช่นกัน ซึ่งแอปฯ Discord สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ iOS

เลือกดาวน์โหลด Discord บนคอมพิวเตอร์ หรือเปิดผ่านเบราเซอร์
เลือกดาวน์โหลด Discord บนคอมพิวเตอร์ หรือเปิดผ่านเบราเซอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง: Microsoft Teams แพลตฟอร์มทำงานเป็นทีม ตอบโจทย์ทั้งบริษัทและองค์กร

I Plan Digital Agency
I Plan Digital Agency
Articles: 271