Clinic Marketing (#15) (#18)

https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

Search Generative Experience (SGE) คืออะไร ส่งผลต่อ SEO และ Web Traffic หรือไม่?

เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกับการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน Search Engine อย่าง Google กันอยู่แล้ว ซึ่งล่าสุด Google พัฒนาการค้นหาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ Generative AI ในการประมวลผลจากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อค้นหาคำตอบให้กับผู้ใข้งานในลักษณะของการถาม-ตอบ (ไม่ต่างจากการใช้งาน ChatGPT) จึงทำให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่ตรงกับความต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องไปค้นหาเพิ่มเติม เพียงแค่พิมพ์ข้อความสนทนากับ Search Generative Experience (SGE) ได้เลย จึงเปิดประสบการณ์การค้นหา Google Search ในรูปแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งาน 

Search Generative Experience (SGE) คืออะไร
Search Generative Experience (SGE) คืออะไร ส่งผลต่อ SEO และ Web Traffic หรือไม่? - Search Generative Experience (SGE)

สารบัญ

Search Generative Experience (SGE) คืออะไร?

SGE ทำงานอย่างไร?

SGE ส่งผลต่อ SEO หรือไม่?

SGE ส่งผลต่อ Web Traffic หรือไม่?

SGE สมัครอย่างไร? 

Search Generative Experience (SGE) คืออะไร?

Search Generative Experience (SGE) คือการนำ Generative AI มาใช้ประโยชน์ในการค้นหาข้อมูล ถือเป็นก้าวใหม่ของการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ในการค้นหาข้อมูลจาก Google  โดยมุ่งหวังให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการค้นหาข้อมูลเพียงครั้งเดียว  

Search Generative Experience (SGE) คืออะไร
Search Generative Experience (SGE) คืออะไร ส่งผลต่อ SEO และ Web Traffic หรือไม่? - Search Generative Experience (SGE)

โดย SGE สามารถตั้งคำถามโต้ตอบกับผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการ อีกทั้งยังนำข้อมูลที่ได้รับมาประมวลผลภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว ก่อนนำไปสู่ผลการค้นหาต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำถาม เพื่อสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่ง SGE สามารถตั้งคำถามเพิ่มเติมกับผู้ใช้งานในโหมดสนทนาใหม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนได้พูดคุยกับบุคคลจริง  ๆ และยังสามารถสร้างสรรค์ไอเดียและแบบร่างต่าง ๆ ในการค้นหาได้ด้วย 

SGE ทำงานอย่างไร?

AI-powered snapshots 

AI-powered snapshots ของ Google สามารถช่วยให้ค้นหาข้อมูลภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับคำถามด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้เห็นเนื้อหาและมุมมองบนเว็บที่หลากหลายขึ้น โดย SGE จะแสดงลิงก์ที่เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลมาให้ เพื่อให้ผู้ใช้งานตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยตนเองและสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมได้ จึงเป็นประโยชน์ในการค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้งาน

Conversational mode

Conversational mode เป็นโหมดการสนทนาที่ผู้ใช้งานสามารถคลิกที่ “ask a follow up” หรือเลือกคลิกขั้นตอนถัดไป (Next Step) ที่แนะนำโดย AI-powered snapshots เพื่อเปิดโหมดการสนทนาได้ โดยสามารถพิมพ์คำถามเพื่อให้ SGE ตอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังหาข้อมูลอยู่  ซึ่งเป็นการลงลึกรายละเอียดนอกเหนือจากข้อมูลภาพรวมที่ได้จาก AI 

โหมดการสนทนาดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับคำถามที่ตามมาของผู้ใช้งาน เนื่องด้วยการเดินทางของข้อมูลในปัจจุบันมีความซับซ้อนและพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ  จึงต้องให้ AI ทำความเข้าใจว่าคำถามที่ตามมานั้นมีความเชื่อมโยงกับคำถามก่อนหน้าด้วย เพื่อจะได้ปรับการค้นหาคำตอบให้มีความสอดคล้องกัน ซึ่งสังเกตได้จากลิงก์เว็บด้านล่างของ SGE ที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาในระหว่างสนทนากับผู้ใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ต้องการมากที่สุดได้

Vertical experiences 

SGE มีประโยชน์ต่อการค้นหาข้อมูลในแนวตั้งอย่างการช็อปปิ้ง หรือการค้นหาแบบ Local ที่มีหลายมิติ เช่นกรณีการช็อปปิ้ง SGE จะช่วยหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้การตัดสินใจซื้อของที่ซับซ้อนสามารถทำได้รวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น 

โดยในการค้นหาผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้น SGE จะสร้างภาพรวมของปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาและตัวเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ  รวมถึงยังมีคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน, รีวิวการใช้งาน, การให้คะแนนผลิตภัณฑ์, ราคา, ภาพสินค้า ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือมีการอัปเดตแล้ว เนื่องจาก SGE ถูกสร้างจาก  Shopping Graph ของ Google ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ผู้ขาย แบรนด์ รีวิวการใช้งาน และสินค้าในสต๊อก

Advertisements

ด้วยการทำงานของ Generative AI ทำให้การโฆษณาแบบ Search Ads ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไป เพราะ SGE จะทำให้ Search Ads กลายเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นเจอธุรกิจออนไลน์มากมายขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจที่ลงโฆษณาประเภทนี้ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น  

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โฆษณาแบบ Search Ads จะมีข้อความตัวหนาสีดำ “Sponsored” กำกับอยู่เหมือนเดิม เพื่อให้แตกต่างจากโฆษณาแบบ Organic ที่ไม่เสียเงินซื้อโฆษณา  

Creativity

ความสามารถของ Generative AI ทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าแค่การค้นหาข้อมูล แต่สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์งานเขียนที่เหมาะสมในการโพสต์ลงบนโซเชียลได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มขีดความสามารถของ AI ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นด้วย

User experience

Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการใช้งาน และพัฒนาการออกแบบ USER Interface (UI) มานานหลายปี เพื่อให้เป็นประโยชน์และเข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในการนำ AI เข้ามาค้นหาข้อมูลที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ด้วยเหตุนี้ Google จึงสร้าง SGE ให้เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยที่ AI-powered snapshots สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และจดจำ UI ได้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ลิงก์ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทั้งบนโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งนำ Generative AI มาช่วยในการค้นหาข้อมูลอย่างถูกต้องผ่านโหมดสนทนาด้วย

SGE ส่งผลต่อ SEO หรือไม่?

การมาของ SGE (แม้ว่ายังอยู่ในระหว่างทดลองการใช้งาน) จะส่งผลต่อการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในการค้นหาบน Search Engine Resut Pages (SERPs) หรือไม่ เป็นคำถามที่นักการตลาดเริ่มเป็นกังวล เมื่อ SGE นำเสนอข้อมูลในลักษณะของการถามตอบในโหมดการสนทนา เพื่อให้ได้คำตอบที่ผู้ใช้งานต้องการ

ดังนั้น การทำ SEO อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยต้องเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร เพื่อให้การทำคอนเทนต์ได้รับคำตอบที่ตรงกับคำถามและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยที่เนื้อหาต้องมีความเกี่ยวข้องและครอบคลุมมากที่สุด คอนเทนต์ต่าง ๆ บนเว็บไซต์จึงต้องให้ความสำคัญทั้งเรื่องของคุณภาพ และความเกี่ยวข้องของเนื้อหาให้มากยิ่งขึ้น ไม่ใช่สนใจแค่เทคนิคการทำ SEO แต่เพียงอย่างเดียว

SGE ส่งผลต่อ Web Traffic หรือไม่?

การมาของ SGE คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ หรือ Web Traffic อย่างมีนัยสำคัญได้ หากเว็บไซต์ดังกล่าวมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ และมีเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้อง SGE ซึ่งมีโหมดการสนทนา และการถามคำถามในรูปแบบใหม่ (ถามคำถามที่มีความเกี่ยวข้องกับคำถามตั้งต้น) ก็อาจทำให้เกิดการเพิ่ม Engagement หรือการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน และเพิ่มเวลาในการอยู่บนเว็บไซต์นั้น ๆ นานขึ้นได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์ดังกล่าวไปโดยปริยาย

SGE สมัครอย่างไร?

Google เปิดตัว Search Generative Experience (SGE) ในรูปแบบที่ให้ทดลองใช้งานกันก่อนในตอนนี้ ซึ่งเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่ยังใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น สำหรับประเทศในเอเชียรวมถึงประเทศไทยอาจจะต้องรออีกสักระยะ หากสามารถใช้งานได้จะเห็นนรูปไอคอนหลอดทดลองสีน้ำเงินอยู่ที่มุมบนขวา เมื่อเข้าผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome จากนั้นให้คลิกไอคอนดังกล่าว และคลิก Join Waitlist เพื่อเข้าคิวในการทดลองใช้งานได้เลย

โดยต้อง Sign Up หรือสมัครใช้งานที่ Search Labs เสียก่อน ซึ่งสามารถสมัครได้ผ่านคอมพิวเตอร์ (เบราว์เซอร์ Google Chrome) และโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android  (สำหรับมือถือ ให้สังเกตไอคอนหลอดทดลองที่มุมบนซ้ายของแอปพลิเคชัน) 

ผู้ที่มีรายชื่ออยู่ใน Waitlist จะสามารถเข้าร่วมใช้งานได้ตามคิวที่ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนสมาชิกแพคเกจ Google One Premium จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึง Search Labs  และใช้งาน SGE ก่อนใคร ซึ่ง Google จะแจ้งให้ทราบผ่านอีเมลที่ลงทะเบียนไว้ 

อย่างไรก็ตาม Search Labs ไม่ได้มีแค่ SGE เท่านั้น แต่ยังมีอีก 2 ฟีเจอร์ให้ได้ทดลองใช้งานกันด้วย นั่นคือ Code Tips และ Add to Sheets 

  • Code Tips: ระบบที่เป็นโมเดลภาษาโปรแกรมขนาดใหญ่ ที่ให้คำแนะนำในการเขียนและแก้ไขโค้ดได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถตั้งคำถามเกี่ยวกับการเขียนโค้ดที่เกี่ยวข้องกับชุดภาษาโปรแกรมที่กำหนเองได้ ไม่ว่าจะเป็น  (C, C++, Go, Java, JavaScript, Kotlin, Python, TypeScript) รวมไปถึงเครื่องมือต่าง ๆ  (Docker, Git, shells), และอัลกอริทึม 
  • Add to Sheets: การเพิ่มชีตแบบเอ็กเซลที่สามารถแทรกผลการค้นหาลงใน Spreadsheet ของคุณได้โดยตรง และสามารถแชร์ให้เพื่อนๆ ดูได้ด้วย ซึ่งเหมาะกับการวางแผนทริปท่องเที่ยว หรือการติดตามข้อมูลอื่นๆ ที่พบจากการค้นหา โดยจะมีปุ่มป๊อปอัพปรากฏอยู่ทางฝั่งซ้ายเมื่อแสดงผลการค้นหาจากเว็บ  หากต้องการเพิ่มลงใน Spreadsheet  ก็สามารถคลิกปุ่มดังกล่าวได้

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่จะช่วยให้สามารถใช้งาน Search Generative Experience (SGE) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงนำมาใช้ประโยชน์สำหรับการวางแผนเพื่อทำคอนเทนต์การตลาดให้เว็บไซต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

ที่มา: Google, 9to5google, cnet, savvity

บทความที่เกี่ยวข้อง: สอนวิธีค้นหาคีย์เวิร์ด เขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับหน้าแรกกูเกิล

I Plan Digital Agency
I Plan Digital Agency
Articles: 271