Clinic Marketing (#15) (#18)

https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

ทำความรู้จัก 2 ประเภท Sale Page เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

การทำ การตลาดออนไลน์ เพื่อเว็บไซต์ของแบรนด์หรือธุรกิจมีหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการสร้าง Sale Page เพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่รู้ไหมว่า Sale Page มี 2 ประเภท 2 รูปแบบให้เราเลือกใช้งาน แล้วหน้าเพจแต่ละรูปแบบนั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร จะเลือกใช้แบบไหนดี ลองมาดูความแตกต่างที่เรานำมาฝากกันก่อนได้เลย

ทำความรู้จัก 2 ประเภท Sale Page เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ทำความรู้จัก 2 ประเภท Sale Page เหมือนหรือต่างกันอย่างไร - Sale Page

ทำความรู้จัก 2 รูปแบบของ Sale Page

1. Sale Page แบบสั้น

Sale Page แบบสั้นเรียกอีกอย่างว่า Short-form Sales Pages เป็นหน้าเพจที่มีเนื้อหาการขายไม่เยอะ ไม่อัดแน่น มีข้อความหรือเนื้อหาไม่เยอะและไม่เกี่ยวกับความยาวของหน้าเพจ นิยมใช้กับการขายสินค้าที่มีราคาไม่แพง เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ข้อความหรือเนื้อหายาว ๆ มากระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อ เนื่องจากสินค้าหรือบริการที่มีราคาถูก ผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่าอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเขียนเนื้อหายาว ๆ หรือใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ามาเยอะ ๆ เพราะอาจทำให้เกิดความน่าเบื่อ หมดความสนใจ และผู้เข้าชมปิดหน้าเพจของเราไปก่อนจะได้สั่งซื้อ แต่ถึงจะบอกว่าไม่ต้องมีเนื้อหาเยอะ แต่รายละเอียดสำคัญอย่างเช่น รายละเอียดสินค้า จุดเด่น ประโยชน์ และราคา ก็ยังต้องใส่มาแบบครบถ้วนด้วย

2. Sale Page แบบยาว

Sale Page แบบยาวเรียกอีกอย่างว่า Long-form Sales Pages หรือ Mini Website เพราะในหน้าเซลเพจแบบนี้จะประกอบไปด้วยข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดสินค้า จุดเด่น คุณสมบัติ ประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้รับ ไปจนถึงรีวิวจริงจากผู้ใช้งาน และที่สำคัญหากมีโปรโมชั่นเด็ด ก็ควรใส่รายละเอียดเข้ามาด้วย เหมาะสำหรับการนำเสนอขายสินค้าหรือบริการที่มีราคาสูง เพราะต้องออกแบบเนื้อหาเพื่อให้ผู้เข้าชมเกิดความรู้สึกคล้อยตามมากที่สุด โดย Sale Page แบบยาวอาจนำรูปภาพ วิดีโอ รีวิว และโปรโมชั่นมานำเสนอ เพื่อให้ผู้ชมเกิดความอยากรู้อยากเห็น เกิดความสนใจ และนำไปสู่การปิดการขายในที่สุด

หน้าเซลเพจแบบยาวต้องทำหน้าที่ให้ข้อมูลแก่ผู้ชมอย่างละเอียดครบถ้วน เพื่อให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะยิ่งสินค้ามีราคาสูงมากเท่าไหร่ ผู้ชมก็ยิ่งต้องการข้อมูลเป็นจำนวนมากเพื่อตัดสินใจ ตรงกันข้ามกับหน้าเซลเพจแบบสั้นที่อาจไม่ต้องให้รายละเอียดมาก แต่เน้นความสั้น กระชับ ได้ใจความ อ่านแล้วตัดสินใจซื้อได้ทันที แต่ไม่ว่าจะเป็น Sale Page แบบไหนก็มีจุดประสงค์ทางการตลาดออนไลน์แบบเดียวกัน คือเพื่อสร้างโอกาสในการปิดการขาย กระตุ้นให้เกิดยอดขายนั่นเอง

ได้รู้กันไปแล้วว่า Sale Page ทั้ง 2 รูปแบบคือแบบสั้นและแบบยาวแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับการขายสินค้าแบบไหน เพราะฉะนั้นลองเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณดู รับรองว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง: Sale Page คืออะไร ทำไมเว็บไซต์ธุรกิจ หรือ Web E-Commerce ต้องมี

I Plan Digital Agency
I Plan Digital Agency
Articles: 271