รวบรวมการตลาดสุดเอาท์! ที่ปีนี้ 2019 ต้องลด ละ เลิก ได้แล้ว
การตลาดที่ไม่ควรทำในปี 2019
ปีแต่ละปีนั้นล้วนผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว สำหรับนักการตลาดแล้วนั้นการ Update เทรนด์ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในแต่ละปีนั้นการตลาดล้วนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากคุณยังคงทำตามวิธีการเดิมอยู่ในขณะที่ผู้คนรอบตัวคุณทำสิ่งใหม่ คุณก็จะตกเทรนด์ ครั้งนี้จึงเป็นการแนะแนวทาง พร้อมรวบรวมการตลาดสุดเอาท์หลุดเทรนด์มาให้ดูกัน เผื่อใครที่ยังใช้ไม้เดิมๆ อยู่จะได้เริ่มปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้มากยิ่งขึ้น
1.คนส่วนใหญ่เข้าถึงสื่อด้วยมือถือ ไม่ใช่ Desktop
เนื่องจากเรามักจะออกแบบ Content ต่างๆ ผ่าน Desktop ทำให้เวลาตรวจความถูกต้องจึงตรวจผ่าน Desktop แต่อย่าลืมไปว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราอยากให้อ่านบทความนั้น ส่วนมากใช้ “มือถือ” ในการอ่าน เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงควรเขียนข้อความที่สั้น กระชับ ได้ใจความ ไม่เกริ่นยาวจนเกินไป
2.มองไปข้างหน้าให้มากกว่า Facebook
เคยมีคนได้กล่าวเอาไว้ว่า Facebook เหมือนบ้านเช่า Website เป็นบ้านเรา เนื่องจากระยะหลังมานี้จะเห็นได้ชัดว่า Facebook เริ่มเติมไปด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่มากกว่าเดิม เราจึงต้องมอง Platform อื่นๆ เพื่อเป็นแผนสำรองเอาไว้ยามฉุกเฉินอีกด้วย โดยเรื่องที่จะมองหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อสำรองไว้ป้องกันการผิดพลาด ถือเป็นการมองการณ์ไกลที่ควรทำอยู่แล้ว เพราะจะทำให้นำคู่แข่งอยู่อย่างน้อยก้าวหนึ่งเสมอ
กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นมีความต้องการที่แตกต่างกันอย่างมาก และ ไม่ต้องการอะไรซ้ำกันเลย ทั้งนี้การตลาดที่ไม่ได้เจาะเฉพาะความสนใจของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้นจึงไม่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ เราจึงควรมาทำ Segmentation และ Personalization แทน
4.ยอดไลก์เพจสำคัญจริงหรือ?
เมื่อก่อนเราอาจเข้าไปดูเพจที่เรากดไลก์ไว้บ้าง แต่ตอนนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป โดยยอดไลก์เพจไม่ได้สำคัญเหมือนเดิมแล้ว จากพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยน โดยช่วงหลังๆ จะเริ่มสังเกตได้ว่าเราอ่าน Content ที่เห็นบน Newsfeed ของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้มีพฤติกรรมจำเพาะอย่างการเข้ามายังแฟนเพจโดยตรง แถมตอนนี้ Facebook ก็ปรับค่าเข้าถึงให้ลดน้อยลงมากถึงแม้ว่าจะมียอดไลก์หลายแสนก็ตาม ดังนั้น เราควรใส่ใจกับทุก Content ที่ปล่อยออกไปอย่างมีคุณภาพจะดีกว่า
การมองหาลู่ทางใหม่ๆ เป็นพฤติกรรมที่นักโฆษณา นักการตลาดทั้งหลายควรจะทำ ดังนั้น อย่าลืมมองหาแผนสำรองสำหรับทุกสถานการณ์โดยเฉพาะ สิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดอย่าง “ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง”